วันพุธที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2562
วันจันทร์ที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2562
วันศุกร์ที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562
วันพฤหัสบดีที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562
เล่าเรื่องกระเจี๊ยบ ฤดูกาลปี 62
ปีนี้ ทำไม่เยอะ 3ไร่โดยประมาณ น่าจะเกิน กะๆ เอา
ปลูก น่าจะ มิถุนา นั่นละ
แล้วก็มีซ่อม ช่วง กค บ้าง สค บ้าง มันปลูกไปเรื่อย ตามทางเดิน ที่ว่างแปล่า ที่ชาวบ้าน ไม่ได้ทำแปลงใหญ่อันเดียว
มันจึงเหลือนิดหน่อย ที่ไม่ทันรุ่นแรก ก็เก็บเอาไว้ขายเองตัดดอกทีละหน่อย เอามาตากไปเรื่อยๆ ไม่ได้ตัดทั้งต้น
.
ชุดแรกขายไปประมาณ 250โล ราคาขายตรงคนซื้อ ไม่ผ่านโกดัง 200บาท/โล นั่นคือจบ ตรงนั้น ถือว่าเรียบร้อย ของปี 62 แล้วละ ทำได้เท่านั้น เพราะ ต้องดูแล ยอ ที่ปลูกใหม่ กับกล้วย เลยไม่กล้าลงกระเจี๊ยบเยอะ เพราะแรงงานตอน จัดการผลผลิตตอนเก็บนั่นละ
ทุกวันนี้ก็เก็บจหมดแล้ว ที่หลงๆ แก่ไม่ทันรุ่นแรก เพราะปลูกซ่อมทีหลัง ก้ขายปลูกไป โลละ 250-350 บาท ก็ไม่มีเหลือติดบ้านแล้วละ ถือว่าขายได้หมด
.
หักค่าใช้จ่ายไปสักหมื่น คงเหลือ สัก 4 หมื่น ก้ถือว่า พอเพียงแบบลุงนี่ละ ที่ไม่ได้ทำอะไร ทีละมากๆ เอาแค่พอแต่แรงตัวเองทำได้
.
ก็ฝากไว้เปฌนข้อคิิด ทำอะไร ให้นึกถึงค่าจ้าง แรงงาน และผลตอบแทนที่จะได้มันคุ้มพอที่จะจ้างหรือเปล่า นั่นละ ก่อนลงมือทำ เรา จัดการผลผลิตที่ได้อย่างไร ตรงนี้คือ เรื่องหลักเลย
.
ปลูก น่าจะ มิถุนา นั่นละ
แล้วก็มีซ่อม ช่วง กค บ้าง สค บ้าง มันปลูกไปเรื่อย ตามทางเดิน ที่ว่างแปล่า ที่ชาวบ้าน ไม่ได้ทำแปลงใหญ่อันเดียว
มันจึงเหลือนิดหน่อย ที่ไม่ทันรุ่นแรก ก็เก็บเอาไว้ขายเองตัดดอกทีละหน่อย เอามาตากไปเรื่อยๆ ไม่ได้ตัดทั้งต้น
.
ชุดแรกขายไปประมาณ 250โล ราคาขายตรงคนซื้อ ไม่ผ่านโกดัง 200บาท/โล นั่นคือจบ ตรงนั้น ถือว่าเรียบร้อย ของปี 62 แล้วละ ทำได้เท่านั้น เพราะ ต้องดูแล ยอ ที่ปลูกใหม่ กับกล้วย เลยไม่กล้าลงกระเจี๊ยบเยอะ เพราะแรงงานตอน จัดการผลผลิตตอนเก็บนั่นละ
ทุกวันนี้ก็เก็บจหมดแล้ว ที่หลงๆ แก่ไม่ทันรุ่นแรก เพราะปลูกซ่อมทีหลัง ก้ขายปลูกไป โลละ 250-350 บาท ก็ไม่มีเหลือติดบ้านแล้วละ ถือว่าขายได้หมด
.
หักค่าใช้จ่ายไปสักหมื่น คงเหลือ สัก 4 หมื่น ก้ถือว่า พอเพียงแบบลุงนี่ละ ที่ไม่ได้ทำอะไร ทีละมากๆ เอาแค่พอแต่แรงตัวเองทำได้
.
ก็ฝากไว้เปฌนข้อคิิด ทำอะไร ให้นึกถึงค่าจ้าง แรงงาน และผลตอบแทนที่จะได้มันคุ้มพอที่จะจ้างหรือเปล่า นั่นละ ก่อนลงมือทำ เรา จัดการผลผลิตที่ได้อย่างไร ตรงนี้คือ เรื่องหลักเลย
.
- ปลูกใครก็ปลูกได้ แต่ขายให้ได้ราคาทำกันไม่ได้ทุกคน
- วางแผนก่อนลงมือทำ
- ไม่ต้องถามว่าขายใครเพราะบอกไม่ได้อยู่แล้ว
- เขาเบื่อพวกที่โทรไปไร้สาระเป็นที่สุด
วันพุธที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562
วันพุธที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2562
วันเสาร์ที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2562
วันอังคารที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2562
วันศุกร์ที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2562
งานวิจัยว่าสามารถลดความดันโลหิตในทางคลินิกได้ผล ได้แก่ กระเจี๊ยบแดง
❤️สมุนไพรที่มีรายงานวิจัยว่าสามารถลดความดันโลหิตในทางคลินิกได้ผล ได้แก่ กระเจี๊ยบแดง กระเทียม ทับทิม ดอกคำฝอย และขึ้นฉ่าย เป็นต้น ตัวอย่างการรับประทาน เช่น
❤️กระเจี๊ยบแดง จากการศึกษาในผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงขั้นที่ 1 (ค่าความดัน 140 - 159/90 - 99 มม.ปรอท) ถึงขั้นที่ 2 (ค่าความดัน 160 - 179/100 - 109 มม.ปรอท) เมื่อให้ดื่มชาจากผงดอกกระเจี๊ยบแดง 10 ก. ชงในน้ำเดือด 500 มล. และแช่ไว้นาน 10 นาที ดื่มวันละ 1 ครั้ง
❤️ช่วงก่อนรับประทานอาหารเช้าทุกวัน นาน 4 สัปดาห์ พบว่าผู้ป่วยมีค่าความดันโลหิตลดลง และมีผลเทียบเท่ากับผู้ที่ได้รับการรักษาด้วยยาแผนปัจจุบัน และการทดลองให้ผู้ป่วยรับประทานกระเจี๊ยบแดงในรูปของสารสกัด anthocyanin จากส่วนของกลีบเลี้ยงขนาด 250 มก./วัน ก็พบว่าสามารถลดความดันโลหิตของผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงได้
❤️กระเทียม ให้รับประทานกระเทียมสดประมาณ 8-10 กลีบ/วัน ขนาดกลาง (หรือประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ) หรือใช้ในรูปแบบของผงแห้ง 600-900 มก./วัน สามารถลดความดันโลหิตได้ แต่มีข้อควรระวังคือ ไม่ควรรับประทานติดต่อกันนานหลายเดือน เนื่องจากกระเทียมมีฤทธิ์ยับยั้งการเกาะกลุ่มของเกล็ดเลือด มีผลอาจทำให้เกิดภาวะเลือดออกแล้วหยุดยาก และไม่ควรใช้ในผู้ที่รับประทานยาละลายลิ่มเลือดหรือยาต้านการแข็งตัวของเลือด เช่น warfarin coumarin และ aspirin เป็นต้น และผู้ที่ต้องได้รับการผ่าตัด หรือถอนฟัน ควรหยุดรับประทานกระเทียมก่อนอย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนเข้าทำการรักษา อาการข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์เมื่อรับประทานกระเทียม คือ มีอาการร้อนในปากและทางเดินอาหาร คลื่นไส้อาเจียน ท้องเสีย มีแผลในกระเพาะอาหาร ปวดท้อง แน่น มีลมในท้อง ไม่อยากอาหาร เหงื่อออก นอกจากนี้การรับประทานกระเทียมปริมาณมากยังทำให้ลมหายใจมีกลิ่นกระเทียม และมีกลิ่นตัวเฉพาะ
❤️ทั้งนี้การใช้สมุนไพรต่างๆ จะใช้เพื่อบรรเทาอาการที่ไม่รุนแรงและเป็นเพียงตัวช่วยเท่านั้น โรคความดันโลหิตสูงเป็นโรคเรื้อรังหากมีการรับประทานยาแผนปัจจุบันร่วมด้วยไม่ควรหยุดรับประทานยาด้วยตนเองและควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิดค่ะ เนื่องจากสมุนไพรที่มีฤทธิ์ลดความดันโลหิตเหล่านี้ อาจเกิดเสริมกับยารักษาความดันโลหิตสูง จนทำให้ร่างกายเกิดภาวะความดันโลหิตต่ำเกินไป จนหมดสติได้ค่ะ
ขายกระแจี๊ยบแดงแห้งและบด
วันพุธที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2562
คำแนะนำคร่าวๆ วิธีปลูกกระเจี๊ยบแดงตั้งแต่ต้นจนจบ
ออกตัวก่อนนะ ไม่ได้ชำนาญ หรือเก่งกาจอะไร
อาจผิดพลาด ก็ขอให้ผู้รู้ เข้ามาเพิ่มเติมได้ แค้เอาประสบการณ์น้อยนิด มาบอกเล่ากันเพื่อเป็นแนวทาง
.
เดือนที่เหมาะสมที่สุดในการปลูกกกระเจี๊ยบ คือเดือน กรดฏาคม ของทุกปี เพราะดินมีความชื้นพอ มีฝนพอ ที่จะช่วยในการเจริญเติบโต ประหยัดเรื่องน้ำได้มาก ถือเป็นการลดต้นทุน แล้วจะไป ออกดอก เก็บเกี่ยว ในช่วงหน้าหนาว
.
จริงๆเขาก็ปลูกได้ทุกเดือน ถ้ามีน้ำ แต่ขอให้นับจากวันปลูก ล่วงหน้าไป 4 เดือนโดยประมาณ เพราะ ช่วงฝนตก กระเจี๊ยบ จะไม่ออกดอก (อันนี้หมายถึง ตามฤดูกาลปกติ ที่ธรรมชาติ เป็นไปตามกำหนดเวลาที่ควรจะเป็น)
ในเรื่องของการเตรียมดิน ก็เหมือนกับการเพาะปลูกทั่วไป ที่ดอน ไม่ต้องยกร่องก็ได้ ที่น้ำขัง ก็ยกร่องกว้าวสัก 1 เมตร จะใส่ปุ๋ยคอก ใส่อะไร ก็ควรทำในช่วงนี้และ
หรือถ้าหว่าน ก็ไม่ยกร่อง ไถแล้วหว่านเลย ถ้าจะหยอด ก็ควร ยกร่อง กว้างสัก1-2 เมตร นั่นละ จะได้หยอดได้ร่องละ 2-3 แถวได้
ระยะห่างระหว่าง ต้น ควรดูที่ความสมบูรณ์ ของดิน ดินทราย อาหารน้อย ควรหยอดถี่ๆ สัก 50ซม.เพราะมันคง แตกพุ่มได้น้อย แต่ถ้าดินดีๆ 70-100ซม ยังได้ เพราะมันจะแตกพุ่มใหญ่ กอละเป็นเมตร ไม่มีอะไร ตายตัว อยู่ที่ดินและน้ำของแต่ละพื้นที่ ต้องพิจารณาเอง
- หยอดหลุมละ 1-2 เม็ดพอ มันขึ้นง่าย ไม่ขึ้นบางหลุมก็ช่างมัน เดี๋ยวพุ่มมันก็โตมาชนกันเอง
ระยะห่างระหว่างแถว ต้องคิดก่อนตั้งแต่เริ่มปลูก ว่าท่านจะเก็บเกี่ยวผลผลิต ยังไง
- เดินเก็บเฉพาะดอกที่แก้พอดี แบบนี้ ต้องเผื่อเดินเข้าไปเด็ดดอกด้วย ก็เว้นระยะห่างหน่อย
- ตัดทั้งต้นทีเดียว แบบนี้ ระหว่างแถวไม่ต้องห่างมาก 70 ซม พอได้
ตามภาพ ผมหว่าถี่มากเกินไป เรียกว่าเปลืองเมล็ดโดยใช่เหตุ
จริงๆแล้วไม่แนะนำยาฆ่าหญ้า ยาคุมหญ้าและเคมีทุกชนิด เพราะกระเจี๊ยบเป็นพืชเพื่อสุขภาพ รากมันจะดูด เอาไปทั้งหมด ทำให้มีพิษตกค้างเยอะ แล้วก็เพิ่มต้นทุนโดยใช้เห็ตุ เมื่อกระเจี๊ยบโตมา มันคลุมหญ้า ตายไปเอง นั่นละ อันนี้เป็นเรื่องส่วนบุคคลกับแนวคิดในการทำเกษตร)
การให้ปุ๋ย เพิ่มเติม ถ้าให้แนะนำแบบเกษตร รุ่นใหม่แบบที่ลุงพยายามให้เปลี่ยน ให้คิดว่า มันเป็นพืชที่ให้ผล คือสูตร 20-5-20 หรือ 20-5-25 ตลอด อายุการปลูก ส่วนมากน้อย ถี่ห่าง คงต้องดูดินเป็นปัจจัยหลัก อย่างของลุง นี่ ไม่ให้เลย เพราะ ดินมีหญ้าหมัก เสริม อินทรีวัตถุ หนาเกือบ 70 ซม เลยไม่ใส่ปุ๋ยอะไร มาจะ10ปีแล้ว แค่ตัดหญ้า ถมหน้าดิน ทุกปี ก็เพียงพอ
การดูแลอื่นๆ ก็ไม่มีอะไร ถ้าฝนมันทิ้งช่วง หรือดินแห้ง นาน ก็สูบน้ำรดเสียหน่อย มันจะได้ ดกๆ แตกกอดีๆ เรียกว่า หลังจากปลูก ก็แค่เดินดู กับเดินแลๆ เท่านั้น อาจมีเพี้ยงแป้งบ้าง ก็หาทางกำจัดเอา หรือ มองผ่านๆ ก็ตามใจ ถ้ามันไม่แผ่ ไปเยอะ
พอมันออกดอก ก็จะเริ่มใจชื้นแล้ว เดี๋ยวจะได้เงิน แน่ๆ ดูเรื่องน้ำนิด ช่วงนี้ อย่าให้ดินมันแห้งจัด ดอกจะไม่โต แต่ ภ้าไม่น้ำก็ไม่เป็นไร มีน้ำค้างมาช่วย ทุกเช้า
การเก็บเกี่ยว
ถ้าเดินเก็บดอกเฉพาะที่แก่ๆ ก็ต้องเริ่มเก็บดอก แบบที่ยังไม่แก่จัด อย่ารอจน เมล็ดในดำ เดี๋ยวดอกจะลาย เทียบกับคนก็เอาอายุ ประมาณ วัย 40 ปี 5555 คือไม่ต้องรอจะแก่จัด เม็ดในเต็ม กลีบ โตเต็มที่ ก็ตัดมาได้แล้ว
ตัดมาทั้งต้น หรืออาจ ตัดมาแบบเลือกเอากิ่งที่มันแก่เยอะๆ โดยเหลือต้นไว้ เพื่อเลี้ยง ดอกที่อ่อยอยู่ (เอาตามที่มีแรงงานละกัน)
ตัดทั้งต้นมา ก็มาตัดเอาเฉพาะ ดอก ส่วนมากก็ใช้กรรไกร เหล็กนั่นละ เอาดีๆหน่อยกรรไกร ไม่งั้นเจ็บนิ้วเวลาตัดดอก
เมื่อตัดดอก ได้แล้ว ต่อไปก็แคะ เอาเมล็ดออก โดยใช้ก้านร่ม หักๆ หรือใครจะตัดแปลง ยังไง ก็เอาตามถนัด ก้านร่มดันลงไปที่ ตรงขั้ว ของดอกกระเจี๊ยบ หนุนๆดันๆ เดี๊ยวเม็ดก็หลุดออกมา ดูเอาตามวีดีโอที่ลงไว้
เมื่อแคะเม็ดออกแล้ว ก็ตากแดด ให้แห้ง โดยเร็ว อย่าตากหนามาก ควรเกลี่ย บางที่สุด คือต้องแห้งเร็วที่สุด เวลาเก็บ ไม่ต้องรวมกอง หรือไม่เอาผ้ายางคลุม เดี๋ยวราขาวๆขึ้น
ตากสัก 3-5 แดด จนแห้งสนิท เวลาเก็บไม่คืนตัวหรือไม่ นิ่มๆ นั่นละ รวมไว้ได้เยอะๆ สัก 50โล หรือจนได้ผลผลิตทั้งหมดแล้วค่อยขายก็ได้ เก็บในที่โล่งๆ ระบาย อากาศ ดีๆ
ผลผลิตที่ควรจะได้ 1ไร่ ที่ 50 กิโลกรัม เมื่อแห้งแล้วเป็นอย่างน้อย ก่อนส่งขายก็ควรคัดไอ้ที่มันไม่ดิ ออกมั่ง ไม่ใช่ มายังไงไปยังงั้น ของเสียเล็กน้อย จะพาของดี เป็นเสียไปด้วย
สนใจเมล็ดกระเจี๊ยบแดงพันธ์ซูดาน โทร+ไลน์ 0809898770
การให้ปุ๋ย เพิ่มเติม ถ้าให้แนะนำแบบเกษตร รุ่นใหม่แบบที่ลุงพยายามให้เปลี่ยน ให้คิดว่า มันเป็นพืชที่ให้ผล คือสูตร 20-5-20 หรือ 20-5-25 ตลอด อายุการปลูก ส่วนมากน้อย ถี่ห่าง คงต้องดูดินเป็นปัจจัยหลัก อย่างของลุง นี่ ไม่ให้เลย เพราะ ดินมีหญ้าหมัก เสริม อินทรีวัตถุ หนาเกือบ 70 ซม เลยไม่ใส่ปุ๋ยอะไร มาจะ10ปีแล้ว แค่ตัดหญ้า ถมหน้าดิน ทุกปี ก็เพียงพอ
การดูแลอื่นๆ ก็ไม่มีอะไร ถ้าฝนมันทิ้งช่วง หรือดินแห้ง นาน ก็สูบน้ำรดเสียหน่อย มันจะได้ ดกๆ แตกกอดีๆ เรียกว่า หลังจากปลูก ก็แค่เดินดู กับเดินแลๆ เท่านั้น อาจมีเพี้ยงแป้งบ้าง ก็หาทางกำจัดเอา หรือ มองผ่านๆ ก็ตามใจ ถ้ามันไม่แผ่ ไปเยอะ
พอมันออกดอก ก็จะเริ่มใจชื้นแล้ว เดี๋ยวจะได้เงิน แน่ๆ ดูเรื่องน้ำนิด ช่วงนี้ อย่าให้ดินมันแห้งจัด ดอกจะไม่โต แต่ ภ้าไม่น้ำก็ไม่เป็นไร มีน้ำค้างมาช่วย ทุกเช้า
การเก็บเกี่ยว
ถ้าเดินเก็บดอกเฉพาะที่แก่ๆ ก็ต้องเริ่มเก็บดอก แบบที่ยังไม่แก่จัด อย่ารอจน เมล็ดในดำ เดี๋ยวดอกจะลาย เทียบกับคนก็เอาอายุ ประมาณ วัย 40 ปี 5555 คือไม่ต้องรอจะแก่จัด เม็ดในเต็ม กลีบ โตเต็มที่ ก็ตัดมาได้แล้ว
ตัดมาทั้งต้น หรืออาจ ตัดมาแบบเลือกเอากิ่งที่มันแก่เยอะๆ โดยเหลือต้นไว้ เพื่อเลี้ยง ดอกที่อ่อยอยู่ (เอาตามที่มีแรงงานละกัน)
ตัดทั้งต้นมา ก็มาตัดเอาเฉพาะ ดอก ส่วนมากก็ใช้กรรไกร เหล็กนั่นละ เอาดีๆหน่อยกรรไกร ไม่งั้นเจ็บนิ้วเวลาตัดดอก
เมื่อตัดดอก ได้แล้ว ต่อไปก็แคะ เอาเมล็ดออก โดยใช้ก้านร่ม หักๆ หรือใครจะตัดแปลง ยังไง ก็เอาตามถนัด ก้านร่มดันลงไปที่ ตรงขั้ว ของดอกกระเจี๊ยบ หนุนๆดันๆ เดี๊ยวเม็ดก็หลุดออกมา ดูเอาตามวีดีโอที่ลงไว้
เมื่อแคะเม็ดออกแล้ว ก็ตากแดด ให้แห้ง โดยเร็ว อย่าตากหนามาก ควรเกลี่ย บางที่สุด คือต้องแห้งเร็วที่สุด เวลาเก็บ ไม่ต้องรวมกอง หรือไม่เอาผ้ายางคลุม เดี๋ยวราขาวๆขึ้น
ตากสัก 3-5 แดด จนแห้งสนิท เวลาเก็บไม่คืนตัวหรือไม่ นิ่มๆ นั่นละ รวมไว้ได้เยอะๆ สัก 50โล หรือจนได้ผลผลิตทั้งหมดแล้วค่อยขายก็ได้ เก็บในที่โล่งๆ ระบาย อากาศ ดีๆ
ผลผลิตที่ควรจะได้ 1ไร่ ที่ 50 กิโลกรัม เมื่อแห้งแล้วเป็นอย่างน้อย ก่อนส่งขายก็ควรคัดไอ้ที่มันไม่ดิ ออกมั่ง ไม่ใช่ มายังไงไปยังงั้น ของเสียเล็กน้อย จะพาของดี เป็นเสียไปด้วย
- ดอกไม่ลาย
- ไม่มีรา
- สีเข้มสม่ำเสมอ สีไม่ซีด
- ขั้วต้องไม่มีรา
- แห้งสนิทจริงไม่คืนตัว
สนใจเมล็ดกระเจี๊ยบแดงพันธ์ซูดาน โทร+ไลน์ 0809898770
- โลละ 350 บาท ค่าส่งครั้งละ 100 บาท เก็บปลายทางเพิ่ม 40บาท
- 10โล ขึ้นไป มีราคาพิเศษให้ แน่นอน ซื้อย่อยๆ มันมีค่าใช้จ่ายในการจัดส่งแฝงอยู่ เช่นค่ารถไปส่ง ค่าคนงาน ซื้อเยอะมันก็ถูกลงไป
1ไร่ ถ้าหว่าน ก็ 1โล หรือไม่ถึง อันนี้แล้วแต่มือคนหว่าน
ถ้าหยอด ก็ 1ไร่ ไม่ถึงโล ก็ประหยัดไป
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)