❤️สมุนไพรที่มีรายงานวิจัยว่าสามารถลดความดันโลหิตในทางคลินิกได้ผล ได้แก่ กระเจี๊ยบแดง กระเทียม ทับทิม ดอกคำฝอย และขึ้นฉ่าย เป็นต้น ตัวอย่างการรับประทาน เช่น
❤️กระเจี๊ยบแดง จากการศึกษาในผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงขั้นที่ 1 (ค่าความดัน 140 - 159/90 - 99 มม.ปรอท) ถึงขั้นที่ 2 (ค่าความดัน 160 - 179/100 - 109 มม.ปรอท) เมื่อให้ดื่มชาจากผงดอกกระเจี๊ยบแดง 10 ก. ชงในน้ำเดือด 500 มล. และแช่ไว้นาน 10 นาที ดื่มวันละ 1 ครั้ง
❤️ช่วงก่อนรับประทานอาหารเช้าทุกวัน นาน 4 สัปดาห์ พบว่าผู้ป่วยมีค่าความดันโลหิตลดลง และมีผลเทียบเท่ากับผู้ที่ได้รับการรักษาด้วยยาแผนปัจจุบัน และการทดลองให้ผู้ป่วยรับประทานกระเจี๊ยบแดงในรูปของสารสกัด anthocyanin จากส่วนของกลีบเลี้ยงขนาด 250 มก./วัน ก็พบว่าสามารถลดความดันโลหิตของผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงได้
❤️กระเทียม ให้รับประทานกระเทียมสดประมาณ 8-10 กลีบ/วัน ขนาดกลาง (หรือประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ) หรือใช้ในรูปแบบของผงแห้ง 600-900 มก./วัน สามารถลดความดันโลหิตได้ แต่มีข้อควรระวังคือ ไม่ควรรับประทานติดต่อกันนานหลายเดือน เนื่องจากกระเทียมมีฤทธิ์ยับยั้งการเกาะกลุ่มของเกล็ดเลือด มีผลอาจทำให้เกิดภาวะเลือดออกแล้วหยุดยาก และไม่ควรใช้ในผู้ที่รับประทานยาละลายลิ่มเลือดหรือยาต้านการแข็งตัวของเลือด เช่น warfarin coumarin และ aspirin เป็นต้น และผู้ที่ต้องได้รับการผ่าตัด หรือถอนฟัน ควรหยุดรับประทานกระเทียมก่อนอย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนเข้าทำการรักษา อาการข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์เมื่อรับประทานกระเทียม คือ มีอาการร้อนในปากและทางเดินอาหาร คลื่นไส้อาเจียน ท้องเสีย มีแผลในกระเพาะอาหาร ปวดท้อง แน่น มีลมในท้อง ไม่อยากอาหาร เหงื่อออก นอกจากนี้การรับประทานกระเทียมปริมาณมากยังทำให้ลมหายใจมีกลิ่นกระเทียม และมีกลิ่นตัวเฉพาะ
❤️ทั้งนี้การใช้สมุนไพรต่างๆ จะใช้เพื่อบรรเทาอาการที่ไม่รุนแรงและเป็นเพียงตัวช่วยเท่านั้น โรคความดันโลหิตสูงเป็นโรคเรื้อรังหากมีการรับประทานยาแผนปัจจุบันร่วมด้วยไม่ควรหยุดรับประทานยาด้วยตนเองและควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิดค่ะ เนื่องจากสมุนไพรที่มีฤทธิ์ลดความดันโลหิตเหล่านี้ อาจเกิดเสริมกับยารักษาความดันโลหิตสูง จนทำให้ร่างกายเกิดภาวะความดันโลหิตต่ำเกินไป จนหมดสติได้ค่ะ
ขายกระแจี๊ยบแดงแห้งและบด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น